MSThailand.com Blog

Blog ของนาย Hanaka

  • Home
  • About
  • Electricity
  • Photos

31

Jan

3 x 8 = ?????

Posted by hanaka  Published in Uncategorized

Credit : fwd mail by UgiG
3 x 8 = ?????
เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ มีอยู่วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า
จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า
ได้ยินลุกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “3×8ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย24เหรียญล่ะ!”
เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า “พี่ชาย 3×8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง? พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก”
คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ
ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ”
เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?”
คนซื้อผ้ากล่าวว่า“หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?”
เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)”
ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น
เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “3×8ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย”
เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น
ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป
ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ [...]

Continue reading...

no comment

19

Jan

ดอกไม้ในดวงวิญญาณ (ตอนที่ ๑)

Posted by hanaka  Published in Uncategorized

ดอกไม้ในดวงวิญญาณ (ตอนที่ ๑)
Credit: http://dharmamag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=270:2010-07-19-17-33-36&catid=39:fiction&Itemid=67
โดย ชลนิล
แววตาคู่นั้นว่างเปล่าและแห้งผาก มือที่เปื้อนเลือดยกขึ้นมาแตะริมฝีปากเบาๆ จากนั้นหล่อนจึงเริ่มยิ้ม…ยิ้มทั้งๆ ที่ไม่มีความรื่นรมย์แม้แต่น้อย
เลือดมาจากร่างที่ถูกซ้อมจนยับเยิน ใบหน้าบวมปูดดูไม่เป็นสารรูป เสื้อผ้าแดงฉานด้วยสีเลือด และลมหายใจ…ขาดหายไปนานแล้ว…
…หล่อนมาช่วยคนรักไม่ทัน…
หญิงสาวทำได้เพียงคุกเข่าลงข้างกาย น้ำตาไม่มีสักหยด มือประคองใบหน้าเขาขึ้นมา ปลายนิ้วเช็ดเลือดจากริมฝีปากของเขา แล้วเงยหน้ามองชายที่ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ยกมือขึ้นซับเลือดนั้นไว้ เสมือนเป็นการผูกพันชีวิตและวิญญาณร่วมกัน
รอยยิ้มจากใบหน้าชาด้านของหล่อนผุดขึ้น นัยน์ตายังแห้ง ไร้ความรู้สึกดังเดิม ริมฝีปากที่ซับเลือดชายคนรักขยับช้าๆ
“พ่อ” ชายที่สั่งฆ่าคนรักหล่อนคือบิดาตนเอง “ต่อให้พ่อฆ่าเขาตาย พ่อก็จะไม่มีวันแยกเราออกจากกันได้…ไม่มีวัน”
น้ำเสียงราบเรียบจนน่าสะพรึงกลัว ร่างโปร่งบางลุกขึ้นยืนดังคนที่ตัดสินใจได้ ขาทั้งสองก้าวออกไปช้าๆ โดยที่ลำคอยังตั้งตรง
ผู้เป็นพ่อได้แต่มองตามเงาหลังของลูกสาวด้วยความร้าวราน…เขาทำผิดหรือถูก?
“ท่านครับ” เสียงเบาอย่างเกรงใจดังขึ้น ชายกลางคนขยับตัวจากท่าเอนพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาซีดโรยลืมขึ้นมองชายหนุ่มในชุดสูทที่ก้มตัวเรียก
“รถพร้อมแล้วครับ” คำพูดสุภาพแฝงความยำเกรง
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนอย่างสง่า สาวเท้านำลูกสมุนโดยไม่พูดจาอะไร
เมื่อเข้ามานั่งในรถ “ท่าน” จึงเอนหลังและสั่งเบาๆ
“ไปได้”
หากเป็นปกติ เขาจะหลับตาพักผ่อนเพื่อเตรียมพร้อมรับงานที่จะมาถึง ปล่อยให้ลูกน้องคอยระแวดระวังภัยให้
แต่คราวนี้เขากลับลืมตามองไปข้างหน้า ราวกับกลัวภาพที่อยู่เบื้องหลังเปลือกตา
ใช่…เขากลัว เพราะยามหลับตาคราใดจะมองเห็นภาพดวงตาที่ว่างเปล่าและแห้งผากของลูกสาว ริมฝีปากที่แต้มรอยเลือด และรอยยิ้มที่บอกถึงความเจ็บช้ำ ปวดร้าว
เขาทำผิดหรือถูก ที่ต้องการให้แพรตะวัน ลูกสาวเขาแต่งงานกับคนดี มีหน้าตาในสังคม…เขาทำผิดหรือถูก ที่สั่งฆ่าคนรักผู้ต่ำต้อยของแพรตะวัน…และสุดท้าย เขาทำผิดหรือถูก…ที่ไม่เฉลียวใจในสิ่งที่หล่อนกระทำ
เขาเคยคิดว่าแพรตะวันจะร้องไห้ฟูมฟาย คร่ำครวญอย่างปวดร้าวต่อการตายของชายคนรัก แต่ผิดคาด หล่อนเพียงเดินจากเขาไปด้วยเงาหลังอันอ้างว้าง…เข้าบ้าน ปิดประตูขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมกินอาหาร ไม่ยอมเปิดรับใคร
ทุกครั้งที่เขาเคาะประตู ขอร้องให้หล่อนกินอาหารบ้าง ผลคือมีเสียงตอบออกมาคำเดียวว่า…
“ไม่”
คำว่า “ไม่” เขาได้ยินถึงสามวัน [...]

Continue reading...

no comment

19

Jan

ดอกไม้ในดวงวิญญาณ (ตอนจบ)

Posted by hanaka  Published in Uncategorized

ดอกไม้ในดวงวิญญาณ (ตอนจบ)
credit: http://dharmamag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=270:2010-07-19-17-33-36&catid=39:fiction&Itemid=67
โดย ชลนิล
เขากำลังนั่งอยู่ริมท่าน้ำของบ้านทรงไทยหลังหนึ่ง มีแพรตะวันนั่งพับเพียบอยู่ข้างๆ ส่วนด้านหลังเขาเป็นลำน้ำที่ไหลเอื่อยๆ มีหมอกขาวลอยเรี่ยอยู่ด้านบน
”นี่พ่อฝันไปหรือเป็นความจริง” ใบหน้า รูปร่างของแพรตะวันเป็นเหมือนเดิม ไม่ผิดจากลูกสาวคนเดิมของเขา ไม่มีร่องรอยของซากศพผมขาวโพลนที่สร้างความสะพรึงกลัวแก่ขาอีกต่อไป
”อย่าสนใจมันเลยค่ะพ่อ” หล่อนตอบ “พ่อตกมาจากสะพาน แล้วก็มาขึ้นฝั่งที่นี่”
”ใช่…พ่อหนีพวกมัน” เขาจำได้
”แล้วพ่อคิดว่าหนีพ้นหรือคะ”
เขาอึ้ง เหลียวกลับไปมองสะพานที่เห็นอยู่ลิบๆ หลังสายหมอก
”คงไม่” เขาตอบอย่างจำยอม ไม่มีใครหนีกรรมของตัวเองพ้น
เป็นครั้งแรกที่แพรตะวันยิ้ม รอยยิ้มที่ไม่ต่างจากเคยยิ้มให้เขา
”หนูดีใจที่พ่อยอมรับ”
”พ่อเหมือนกับได้ผ่านความตายมาแล้ว มันทำให้เข้าใจอะไรได้มากขึ้น” เขาพูด
”แล้วพ่อคิดว่าจะชดใช้ให้กับพวกเขาอย่างไร”
เขาเงียบ เหม่อมองออกไปในสายน้ำ เนิ่นนานกว่าจะพึมพำเบาๆ
”ชีวิตพ่อชีวิตเดียว จะชดใช้ให้พวกเขาพอไหม”
”ที่จริง มันไม่ได้อยู่ว่าพอหรือไม่พอ แต่เวลานี้ แค่แพรได้รู้ว่า พ่อสามารถสำนึกผิด แพรก็ดีใจแล้ว”
สำนึกในความผิด…แท้ที่จริง เขาไม่อยากใช้คำนี้กับตนเองเลย เพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ มันเกินกว่าคำว่าสำนึก…เขาไม่เพียงแต่แลเห็นความผิดของตน เขายังเจ็บปวดและเป็นทุกข์ในยามที่ระลึกถึง ความรู้สึกเหล่านี้ก่อตัวขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่วันที่แพรตะวันเสียชีวิต จนมาปะทุรุนแรงก็เมื่อกำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตาย
”ใช่ พ่อยอมรับ” เขาตอบ
”ถ้างั้น แพรอยากให้พ่อได้พบกับคนคนหนึ่ง”
จบคำพูด เขาก็มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมายังท่าน้ำ แพรตะวันเบี่ยงตัวเล็กน้อยเป็นช่องให้ชายคนนั้นเข้ามานั่งเคียงข้าง
เขารู้ดีว่า อย่างไรก็คงต้องได้พบ เวลานี้สิ่งที่ดีที่สุดคือ ได้พูด ในสิ่งที่สมควรพูดมานาน
”ถึงตอนนี้พ่อคิดว่า คำขอโทษ คงไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับลูกกับเขาอีกแล้ว แต่ถึงอย่างไร พ่อก็ขอโทษ สำหรับทุกสิ่ง”
”ท่านเป็นพ่อของผู้หญิงที่ผมรัก” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยท่าทางปกติ ไม่มีทีท่าคุกคามเช่นตอนอยู่บนสะพาน “ถึงผมจะโกรธ และชิงชังในการกระทำของท่าน [...]

Continue reading...

no comment

19

Jan

พนักงานขาย วิญญาณพเนจร และ สุนัขจรจัด

Posted by hanaka  Published in Uncategorized

Credit :http://dharmamag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=378&Itemid=67
ธีระวัฒน์ อนันตวรสกุล
วิญญาณเมรัยหลุดลอยออกจากร่างที่นอนแน่นิ่งในที่นั่งคนขับของรถยนต์คันงามป้ายแดงใหม่เอี่ยม ที่เขาเพิ่งได้เป็นรางวัลจากยอดขายที่เกินเป้า เขาเผลอหลับในขณะขับรถไปครู่เดียว พอตื่นมาก็พบว่า ตนกำลังมองร่างที่แน่นิ่งของตนอยู่แล้ว เมื่อค่ำที่ผ่านมาเขาเพิ่งร่วมงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของเหล้านำเข้ายี่ห้อใหม่ ที่บริษัทของเขานำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ และแน่นอนเขาดื่มสิ่งที่เขาขายไปด้วยปริมาณเพียงพอที่จะทำให้เขาเมา
แล้วความมืดก็ปรากฏขึ้นแก่เขา เขาไม่สามารถรับรู้เห็นแสงใดๆ ได้อีก เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เขาก็รู้สึกว่าตนเองยังคงเดินวนเวียนหลงทางในที่มืดสนิท เวลาผ่านไปนานพอจนเขารู้สึกหิว กระหายจนแทบจะหมดแรง แล้วก็มีความสว่างแวบนึง ทำให้เขาเห็นภาพของยายแก่ๆคนหนึ่งกำลังนำเศษอาหารมาเลี้ยงสุนัข ความสว่างสลัวๆนั้นปรากฏขึ้นในตอนที่ ยายกำลังเลี้ยงบรรดาสุนัขอย่างเมตตา
เมรัยยังเห็นยายมาเลี้ยงสุนัขอยู่เกือบทุกวัน แสงสว่างสลัวๆ เปล่งประกายให้เมรัยเห็น
เมรัยนั้นทั้งหิวทั้งกระหายอย่างยากจะบรรยาย จนหลายๆครั้ง เขานึกอิจฉาหมาที่กินเศษอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเหล่านั้น
ในวันหนึ่งเมรัยรวบรวมพลังทั้งหมด เพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากคุณยายผู้เมตตา ในที่สุดก็เหมือนคุณยายจะเห็นเขาเพียงลางๆ คุณยายตกใจร้องอย่างสุดเสียงว่า “ผีหลอกๆ” แล้ววิ่งเตลิดไป
เมรัย สลดใจ เขาไม่ได้ตั้งใจหลอกคุณยายผู้มีเมตตาแต่อย่างใดเลย เพียงแต่อยากขอความช่วยเหลือเท่านั้น การรวมพลังปรากฏกายของวิญญาณไร้อิทธิฤทธิ์เช่นเขา ทำให้เขาอ่อนเพลียหนักมากเข้าไปอีก
เมรัยต้องตกอยู่ในความมืดอย่างนั้นอีกหลายวัน จวบจนวันหนึ่งแสงสว่างเจิดจ้าก็ได้ปรากฏขึ้น ให้วิญญาณของเมรัยเห็นสิ่งต่างๆอย่างชัดเจนเหมือนดังตามนุษย์ แสงสว่างเจิดจ้าที่ฉายมาจากหลวงตาแก่ๆ ที่ดูภายนอกเป็นเพียงพระธรรมดาๆ แต่จากมุมมองของวิญญาณ การปรากฏกายของหลวงตารูปนั้น นำความสว่างไสวมาให้กับวิญญาณหลายๆ ดวง ในอาณาบริเวณนั้น วิญญาณจำนวนมากมายปรากฏขึ้นในรูปที่สยดสยอง นั่งพนมมือไหว้ท่าน
เมรัยจึงรู้ว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และหลวงตามาหาหมอนี่เอง จากมุมมองของวิญญาณ ที่นี่มีวิญญาณหลงอยู่ในความมืดมากมาย อาจเพราะที่นี่เป็นอำเภอที่มีครบทั้งโรงงานอุตสาหกรรม สถานที่ท่องเที่ยว ยอดขายสุราที่นี่ภายใต้การดูแลของเขา ซึ่งแม้บริษัทของเขาจะเป็นตราสินค้าที่ไม่ใช่ยอดขายอันดับหนึ่งก็มากมายอยู่เอาการ ซึ่งรวมๆแล้วทุกยี่ห้อ ส่งผลให้อุบัติเหตุที่นี่มากมายเป็นเงาตามตัว เขานึกเสียใจว่าตอนเป็นมนุษย์ [...]

Continue reading...

no comment

8

Jan

ตายแล้วฟื้น

Posted by hanaka  Published in Uncategorized

ในบรรดาเรื่องตายแล้วฟื้น ชอบเรื่องนี้ที่สุดค่ะ เพราะหลวงพ่อฤาษีท่านเล่าสนุก
เรื่อง การตายแล้วฟื้นของตาแคล้ว ทายกของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
เป็นเรื่องจริงที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) บวชใหม่ๆ
ตาแคล้วตายไป ๘ ชั่วโมง ฟื้นขึ้นมา ก็มาเล่าเรื่องชีวิตหลังความตายให้หลวงพ่อฟัง
มีหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยทำบุญด้วยน้ำครับ
ความจริง เรื่องน้ำ นี่บรรดาท่านพุทธบริษัท จะเล่าเรื่องสู่กันฟังสักเรื่องหนึ่ง
เรื่องการเทศน์ญาติโยมก็ฟังกันมามากแล้วนะ
เอาเรื่องจริงๆ ในสมัยที่อาตมายังไม่ตาย เวลานี้ก็ยังไม่ตายยังคุยอยู่
จะเล่าเรื่องของคนที่ตายไปแล้ว
แต่ว่าสมัยนั้นท่านกลับฟื้นขึ้นมา คือ ตาแคล้ว
ตาแคล้วนี่เป็นทายกของหลวงพ่อปาน
เป็นนักบุญอย่างตาหง่านี่ เวลามะยังภันเต อย่างตาหง่านี่แหละ
นำอาราธนาศีล ถวายทานเพราะ เสียงดีมากคล้ายๆ กัน
แต่ตาแคล้วชอบทำบุญทุกอย่าง
ขึ้นชื่อว่าบุญ ทำทุกอย่างที่หลวงพ่อปานแนะนำ
เว้นไว้อย่างเดียว คือ ไม่ได้ทำบุญด้วยน้ำ
ข้าวใส่ ขนมใส่ อะไรก็ตามที่ชอบใจทำบุญหมด แต่ไม่ได้ใส่น้ำ
ต่อมาในวันหนึ่ง ฉันบวชแล้ว ตาแคล้วแกตาย
แกตายไปประมาณ ๘ ชั่วโมง ก็ฟื้นขึ้นมา
ตอนนี้แกก็เล่าเรื่องของความตาย
บอกว่าขณะที่จะตายมีคน ๔ คนมารับ
ทั้ง ๔ คน นุ่งกางเกงแดง ใส่เสื้อแดง โพกหัวแดง มาถึงบอกว่า
แคล้ว ถึงเวลาแล้ว ไปเถอะไปด้วยกัน
แกบอกว่าคำสั่งของเขามีอำนาจมากไม่สามารถจะต้านทานได้ ก็ต้องเดินตามเขาไป
พอเขานำไปสำนักพระยายม
พระยายมก็บอกว่า คนที่ไปเอาน่ะชื่อแคล้ว แต่ว่าหัวไม่ล้าน
แต่ไอ้แคล้วนี่หัวมันล้าน [...]

Continue reading...

no comment

8

Jan

ตายแล้วฟื้น-เผากระดาษเงินกระดาษทอง

Posted by hanaka  Published in Uncategorized

ไปอ่านพบในเว็ปบล็อคของคุณผ้าสีหินกับไม้เจีย เห็นว่าเป็นประโยชน์ดีสำหรับคนที่ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เรื่องราวหลังความตาย ที่คนที่ฟื้นขึ้นมาจากความตาย จะเล่าเรื่องทำนองคล้ายๆกันแบบนี้ทั้งสิ้น เชิญชมค่ะ
แกตอบว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ดูคล้ายๆ.กับนอนหลับไป แต่คงจำเรื่องประหลาดคล้ายๆ กับฝันได้ดี ข้าพเจ้าจึงได้ขอร้องให้แก่เล่าให้ฟัง
ทุกๆ คนที่นั่งอยู่ในที่นั้นก็สนับสนุน แกจึงได้เล่าเรื่องให้ฟังอย่างช้าๆ ว่า
วันหนึ่ง แกไปดูเรือนที่แกรับเหมาเขาปลูกสร้างที่ตลาด จนเวลาบ่ายรู้สึกปวดศีรษะ จึงกลับมาบ้านกินยาแอสไพริน ๒ เม็ด พอนอนพักไปได้สักครู่หนึ่ง ก็รู้สึกปวดปัสสาวะจึงได้ลุกขึ้นไปถ่ายในห้องน้ำ
ขณะที่ถ่ายจวนจะเสร็จ ก็รู้สึกหน้ามืด จึงได้ใช้มือเท้ายันโอ่งน้ำข้าง ๆ ตัว ต่อจากนั้นก็หมดความรู้สึก จะเป็นเวลานานสักเท่าใดก็ไม่ทราบ เมื่อรู้สึกตัวจึงลุกขึ้นยืน รู้สึกว่าตัวเบาหวิวและมึนๆ ก็พอดีเห็นคน ๓ คนเดินตรงเข้ามา
เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวเนื้อดำแดง ๒ คนนุ่งดำห่มดำ อีกคนหนึ่งนุ่งขาวห่มขาว โพกผ้าแดง ชาย ๓ คนนี้เป็นคนแปลกหน้า ล้วนแต่ไม่เคยได้รู้จักมาก่อนทั้งนั้น
พอแกจะเอ่ยปากถาม ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกไป คน ๒ คนที่นุ่งดำห่มดำ ก็ตรงเข้าปล้ำจับแขนแกแน่นคนละข้าง แล้วดึงเอาแกไปโดยทันที คนที่นุ่งขาวนั้นหันหลังกลับ แล้วก็เดินนำหน้าไป แกสะบัดพลางดิ้นพลางเพื่อจะให้หลุด พร้อมทั้งถามว่า “เรื่องราวอะไรกันถึงมาฉุดคร่าเอาตัวไปเฉยๆ”ไม่มีเสียงตอบ เขาคงฉุดคร่าไปแต่อย่างเดียว เมื่อเห็นว่าดิ้นไม่หลุดแน่แล้ว ก็ร้องตะโกนเรียกให้คนมาช่วย เพราะแกแลเห็นคนที่เรือน [...]

Continue reading...

no comment

7

Jan

ใครใครก็ทำกันทั้งนั้น…(อ่านกันซักนิด)

Posted by hanaka  Published in Uncategorized

เมื่อชัยอายุ 6 ขวบ ขณะที่นั่งรถไปกับพ่อ ถูกตำรวจจับเพราะขับรถเร็วเกินกำหนด พ่อแอบยื่นเงิน 500 บาทให้ตำรวจ และได้รับอนุญาตปล่อยตัวไป พ่อหันมาพูดกับชัยว่า “ไม่เป็นไรลูก เงินแค่นี้ซื้อเวลา ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”
…………………………………………………………………………………………………………………………..
เมื่อชัยอายุ 8 ขวบ ป้าพาไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเป็นเงิน 75 บาท เมื่อป้าไป ชำระเงิน ยื่นธนบัตรร้อยบาทให้พนักงาน ได้รับเงินทอน 55 บาท เพราะลูกค้ามากและเข้าใจว่าธนบัตร 50บาทคือ 20บาท ป้ารับเงินทอนและใส่กระเป๋าทันที แทนที่จะบอกพนักงานว่าทอนเงินผิด เมื่อออกจากร้านป้าก็พูดกับชัยว่า “ไม่เป็นไรหลาน ความผิดของเขาเองใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”
…………………………………………………………………………………………………………………………..
เมื่อชัยอายุ 9 ขวบ ครูให้การบ้านปลูกต้นหอมแดงในกระบะ 2 สัปดาห์ แล้วนำไปส่งที่โรงเรียน แม่ลืมซื้อหัวหอมแดงมาให้ชัย เมื่อครบกำหนดวันส่ง แม่ให้พ่อไปซื้อต้นหอมแดงที่ตลาดและ ฝังลงในกระบะให้ชัยนำไปส่งครูและพูดว่า “ไม่เป็นไรลูก ครูไม่รู้หรอก มีส่งก็ดีแล้ว ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”
…………………………………………………………………………………………………………………………..
เมื่อชัยอายุ 12 ขวบ ชัยทำแว่นตาใหม่ราคาแพงของลุงแตก ลุงจึงนำใบเสร็จไปอ้างกับ บริษัทเครดิตที่ลุงใช้บริการอยู่ว่าแว่นตาถูกขโมยได้รับเงินชดใช้มา 15,000 บาท เต็มราคาที่ซื้อมาลุงพูดกับชัยอย่างภาคภูมิใจว่า “ไม่เป็นไรหรอกหลาน [...]

Continue reading...

no comment

Search

Pages

  • About
  • Electricity
  • Photos
    • Trip @Home
  • @Suphan
  • PantherCreek
  • Primo
  • Trip@Home
  • Wat Prakaew
  • วังน้ำเขียว
  • เพชรบูรณ์ ภูทับเบิก 2009-11-28
January 2011
M T W T F S S
« Jun   Feb »
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31  

Archives

  • June 2011
  • May 2011
  • March 2011
  • February 2011
  • January 2011
  • June 2010
  • May 2010
  • January 2010
  • October 2009
  • August 2009
  • July 2009
  • June 2009
  • May 2009
  • December 2008
  • October 2008
  • September 2008
  • July 2008
  • June 2008
  • May 2008
  • April 2008
  • March 2008
  • February 2008
  • January 2008
  • December 2007
  • November 2007
  • October 2007
  • August 2007
  • July 2007

Categories

Blogroll

  • Alex
  • Donncha
  • Dougal
  • Matt
  • Michel
  • Mike
  • Ryan

Meta

  • Log in
  • Entries RSS
  • Comments RSS
  • WordPress.org

Recent Post

  • เมื่อเรากลายเป็น “ ของมัน ”
  • หนังสือน่าอ่าน ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์
  • Men are from Mars, Women are from Venus V
  • พระราชา
  • ขอโทษ…
  • ขอโทษ…
  • หนังสือเรื่อง กฎแห่งกระจก
  • ตอนที่ 12 – ผงเก่าพระสมเด็จวัดระฆัง
  • คำสอนเรื่องกำแพงชีวิต ของหลวงพ่อเงิน
  • 3 x 8 = ?????

Recent Comments

  • FIFA55 Play รับแทงบ… in บรรยากาศเหง ๆ ก็ไ…
  • FIFA55 พนันไก่ชน in เพื่อนเก่า..... ..เก่า…
  • Imported-Insurance-724 in ภาษาอังกฤษ
  • hanaka in เพื่อนเก่า..... ..เก่า…
  • 25272527 in เพื่อนเก่า..... ..เก่า…
  • Erme in Don't
  • Bogusov in ยินดีต้อนรั
  • wmhaynes in
  • Mr WordPress in ยินดีต้อนรั
© 2007 MSThailand.com Blog
Theme by Wired Studios, courtesy of Corvette Garage
Valid XHTML | Valid CSS 3.0
Powered by Wordpress